เบื้องหลังของการทำงานอันหนักหน่วง ทุกคนก็ต้องหาเวลาเป็นส่วนตัวเพื่อพักผ่อนหรือทำกิจกรรมต่าง ๆที่ตัวเองชื่นชอบ บางคนก็ชอบอ่านหนังสือ บางคนก็ชอบปลูกต้นไม้ ฯลฯ ดังเช่นดาราสาวสวยนิสัยดีคนนี้ นอกเหนือจากงานพิธีกรประจำของรายการต่าง ๆ มากมาย ที่แทบจะไม่มีเวลาเป็นของตัวเองอยู่แล้ว เธอก็พยายามที่จะแบ่งเวลาส่วนตัวของเธอเพื่อทำกิจกรรมต่าง ๆที่เธอรัก
ต่อไปนี้เราจะได้ทราบถึงวันสบายๆของดาราสาวคนนี้กัน เราได้ตามไปพูดคุยกับเธอถึงสตูดิโอTV Thunder เจอเธอกำลังอัดเทปรายการอยู่ นั่นเธอเห็นเราแล้ว รีบรี่เข้ามาทักทายบอกว่า รอสักครู่นะคะ และแล้วไม่นานเราก็มีโอกาสได้พูดคุยกับเธอ
เธอเล่าให้เราฟังว่าปัจจุบันนอกเหนือจากงานแสดงแล้วก็ยังมีงานพิธีกร ซึ่งก็แทบจะต้องทำงานทั้งอาทิตย์ ดังนั้นเวลาของเธออันดับแรกคือจะไปหาคุณแม่ไปเดินเล่นตามห้าง เวลาส่วนที่เหลือก็จะเป็นของเธอเอง ซึ่งกิจกรรมหลักในยามว่างของเธอเลยก็คือการดูแล พูดคุย กับบรรดาเจ้าสุนัขทั้งหลายที่เธอเลี้ยงไว้ทั้งภายในบ้านและนอกบ้านประมาณ 30 ตัวด้วยกัน เธอยังบอกอีกด้วยว่า 30 ตัวนี้ไม่ได้ซื้อมาจากไหนเลย มาเองกันทั้งนั้น บางทีก็เก็บมาตามข้างถนนบ้างเวลาไปทำงานแล้วพบเห็นเข้า
เธอกล่าวว่า “ไม่รู้จิตใจคนเราทำด้วยอะไรกัน ถึงได้สามารถทอดทิ้งสัตว์ที่เลี้ยงมาหลังจากที่เค้าหมดความน่ารักหรือไม่เป็นที่ต้องการของตัวเอง ซึ่งถ้าจะพูดกันจริง ๆ คือ สัตว์เหล้านั้นเค้าไม่รู้เรื่องอะไรด้วยเลย เวลาคุณเห็นเค้าตอนเล็กๆเกิดความรู้สึกชอบ แล้วนำเค้ามาเลี้ยง มนุษย์เป็นผู้เริ่มทั้งนั้น” สิ่งที่ทำอยู่ในขณะนี้ก็แค่ช่วยเหลือให้ที่อยู่ อาหาร การรักษาพยาบาล ซึ่งเป็นเพียงส่วนน้อยเท่านั้น เพราะเป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าปัจจุบันปริมาณสัตว์มีจำนวนเพิ่มมากขึ้นจนน่ากลัว
ทางสมาคมฯ ได้สอบถามคุณนุ้ยเกี่ยวกับการสร้างที่พักพิงให้กับสัตว์จรจัด เนื่องจากทางสมาคมฯได้เคยทราบว่า คุณนุ้ยให้ความสนใจเกี่ยวกับสัตว์จรจัดเป็นอย่างมาก ซึ่งเธอก็ได้ตอบว่า มีความคิดอย่างนี้จริงๆ แต่ยังไม่รู้จะเริ่มตรงไหน เพียงแต่มีความรู้สึกว่า ในฐานะของผู้ที่เป็นคนของประชาชน เป็นที่รู้จักอาจจะสามารถเป็นกระบอกเสียงใหญ่ ๆ แทนเจ้าพวกสัตว์เหล่านั้นได้บ้าง
เธอยังบอกอีกว่า รู้สึกยินดีมากที่ทางสมาคมฯได้ติดต่อขอสัมภาษณ์เกี่ยวกับสัตว์จรจัด และอยากจะมีส่วนร่วมหรือเป็นส่วนหนึ่งของสมาคมฯ เพื่อจะช่วยกันประสานร่วมมือในการดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ เพียงแค่นี้ก็ทำให้รู้สึกดีใจแทนสัตว์จรจัดทั้งหลายแล้ว ว่าไม่ได้ถูกทอดทิ้งให้ต่อสู้เพียงลำพัง อย่างน้อยก็ยังมีกลุ่มคนอีกกลุ่มที่ไม่เคยมองข้ามสิ่งมีชีวิตเล็กๆนี้ และพร้อมที่จะให้ความรัก ความเมตตาตลอดเวลา
เมื่อทีมงานสมาคมฯหันไปมองข้างหลังก็ได้เห็นทางกองถ่ายเตรียมพร้อมที่จะอัดรายการต่อแล้ว และคุณนุ้ยก็คงต้องไปทำงานต่อ อย่างไรก็ตาม คุณ นุ้ยขอทิ้งท้ายฝากข้อคิดให้กับผู้อ่าน และผู้เลี้ยงสัตว์ไว้ว่า “ทุกชีวิตมีค่าในตัวของมันเอง สุนัขก็เป็นสิ่งที่มีชีวิต เพราะฉะนั้นอย่าเห็นเค้าเป็นสิ่งของ เลือกซื้อมาเพื่อสนองความต้องการทางอารมณ์ของคน ให้มองเค้าเป็นสิ่งมีชีวิตที่ต้องการความรัก ความเมตตา ไม่น้อยไปกว่าคนเราเลย”
